โคโรน่าไวรัส หรือ ที่เราเรียกว่า COVID-19 เป็นปรากฏกาณ์ไวรัสโจมตีคนทั่วโลก ที่ทั่วโลกมีผู้ติดเชื่อมากกว่า 2 แสนคน และเสียชีวิตมากกว่า 8,000 คน ณ วันนี้ (19/3/2020) เป็นที่เเน่ชัดว่าไวรัสชนิดนี้เกิดที่ตลาดสดเมืองอู่ฮั่น (WUHAN) สาธารณะประชาชนจีน
เช็คข้อมูลได้ที่: https://covid19.workpointnews.com/
ข้อมูลที่มีอยู่บ่งชี้ว่า ไวรัสตัวนี้น่าจะมาจากค้างคาว เนื่องจากมีพันธุกรรมที่คล้ายคลึงกับโคโรน่าไวรัสในค้างคาวถึง 96% อย่างไรก็ตามคาดว่าไวรัสนี้น่าจะมีการผสมกับไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์อื่น โดยมีแหล่งรังโรคที่น่าสงสัยคือ งู ทั้งนี้ในการศึกษาต่อมา พบว่า สิ่งมีชีวิตที่ไวรัสนี้น่าจะไปอาศัยอยู่ได้อีก คือ ค้างคาว และตัวมิ้งค์ โดยรูปแบบการติดเชื้อของไวรัสนี้ในค้างคาวและตัวมิ้งค์นั้นคล้ายคลึงกับการติดเชื้อในคน
องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้บอกว่า 80% ของผู้คนที่เป็นไม่ต้องได้รับการรักษาที่เป็นพิเศษ จะสามารถฟื้นตัวเองได้ เเต่มี 1 ใน 6 คนเท่านั้นที่จะมีไข้ที่สูงและมีการหายใจที่ลำบากมากๆ
วีดีโอนี้เป็นวีดีโอที่อธิบายเกี่ยวกับไวรัส COVID-19 ได้อย่างคลอบคลุม
หนังสือพิมพ์ The Guardian ได้พูดคุยกับศาสตราจารย์ John Wilson เป็นประธานวิทยาลัยออสเตเรียทางด้านสาขาชีววิทยาและระบบการหายใจ
ศาสตราจารย์ JOHN ได้เเบ่งคนที่ติดเชื่อ Covid 19 เป็น 4 กลุ่มใหญ่ๆ
กลุ่มเเรก เมื่อได้รับเชื่อ Covid-19 แล้วไม่มีอาการเเสดงออกมา
กลุ่มสอง ได้รับการติดเชื้อในส่วนระบบการหายใจส่วนบน อาจจะมีอาการไอและเป็นไข้เเต่ไม่มาก อาจมีอาการปวดหัวและตาเเดงร่วมด้วย
กลุ่มสาม คือกลุ่มที่คนเป็นมากที่สุดคือจะมีอาการที่รุนเเรงมากขึ้นจากอาการหวัดและเป็นไข้ ส่วนใหญ่จะอยู๋ในโรงพยาบาล
กลุ่มสี่ จะมีการพัฒนาเป็นโรคปอดบวม องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้บอกว่าผู้คนที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจอยู่เเล้ว หรือมีปัญหาเกี่ยวกับปอด โรคเบาหวานมีแนวโน้มที่จะอยู๋ในกลุ่มที่ 4
เมื่อไวรัสโจมตีเข้าที่ปอดเรา โควิดจะเริ่มเเพร่พันธ์ด้วยวิธีการเเตกตัว จากหนึ่งเป็นสอง และจากสองเป็นสี่ เซลล์ของปอดจะถูกโจมตีเสียหายไม่ใช่เกิดจากไวรัสเพียงอย่างเดียวเเต่เพราะเกิดจากระบบภูมิคุ้มกันของเราสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาตามกลไกของร่างกาย
ในช่วงแรกนี้ คุณอาจไม่มีอาการป่วย และสำหรับบางคนก็อาจไม่แสดงอาการใดเลย โดยเฉลี่ยแล้ว ระยะฟักตัวตั้งแต่ติดเชื้อถึงแสดงอาการอยู่ที่ 5 วัน แต่ก็แตกต่างกันไปตามกรณี
ระยะที่อาการไม่หนัก
นี่คืออาการที่คนส่วนใหญ่จะเผชิญ จะเป็นการติดเชื้ออย่างเบา สำหรับ 8 ใน 10 คนที่เป็นโรคโควิด-19 อาการหลักคือมีไข้และไอ เป็นไปได้ว่าร่างกายจะปวดระบม เจ็บคอ และปวดหัว แต่ก็ไม่เสมอไป
อาการไข้เกิดจากการตอบสนองของร่างกายคุณต่อไวรัส ร่างกายเห็นไวรัสเป็นสิ่งแปลกปลอมเลยสั่งการบอกร่างกายว่ามีบางอย่างผิดปกติด้วยการหลั่งสารไซโตไคน์ (cytokines) นี่จะช่วยสร้างระบบภูมิคุ้มกันแต่ขณะเดียวกันก็ทำให้ร่างกายปวดระบมและมีไข้
การไอที่เกิดจากไวรัสโคโรนาเป็นไอแบบแห้ง ๆ และนี่คงเป็นผลมาจากเซลล์ที่ระคายเคืองหลังติดเชื้อไวรัส บางคนอาจจะไอจนมีเสมหะออกมาในที่สุด โดยเสมหะนี้เป็นเซลล์ปอดที่ตายจากเชื้อไวรัส อาการเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องไปพบแพทย์ สามารถรักษาด้วยการนอนพัก ดื่มน้ำเยอะ ๆ และกินยาพาราเซตามอล
ระยะที่ว่านี้กินเวลาราวหนึ่งสัปดาห์ โดยคนส่วนใหญ่จะสามารถฟื้นสภาพร่างกายได้เองเนื่องจากเอาชนะไวรัสได้อย่างไรก็ดี บางคนก็อาการแย่ลงเป็นโรคโควิด-19 ในขั้นรุนแรงกว่า
นี่คือสิ่งที่เราเข้าใจเกี่ยวกับโรคนี้ตอนนี้ แต่ก็เริ่มมีงานวิจัยบางชิ้นที่เสนอว่าโรคโควิด-19 มีอาการคล้ายการเป็นหวัด เช่น การมีน้ำมูก เช่นกัน
การอักเสบที่ปอดเรียกว่าอาการปอดปวม เป็นไปได้ที่เชื้อจะเดินทางเข้าปาก ผ่านหลอดลม และเข้าไปสู่ถุงลมในปอดในที่สุด ไวรัสจะทำลายถุงลมของปอด จะทำให้ปอดต้องทำงานที่หนักขึ้นในการพาออกซิเจนเข้าสู่เลือดและขับคาร์บอนไดออกไซด์ออกไป เมื่อปอดทำงานในการพาออกซิเจนไปเลี้ยงตามอวัยวะต่างๆไม่ได้ ก็จะทำให้อวัยวะต่างๆเกิดอาการ วาย เกิดขึ้นได้
ไวรัสจะทำให้ถุงลมในปอดเริ่มติดเชื้อ เกิดภาวะปอดบวม ในภาวะปอดบวม น้ำจะเริ่มเข้ามาในถุงลมเล็ก ๆ และทำให้เกิดอาการหายใจไม่อิ่มและหายใจไม่สะดวกในที่สุด
ภาวะการบวมของปอดและการไหลของออกซิเจนที่ติดขัดบริเวณปอดทำให้บริเวณนั้นในปอดเต็มไปด้วยของเหลว หนองและเซลล์ที่ตายแล้ว
บางคนมีปัญหาในการหายใจที่ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ ในกรณีที่เลวร้ายที่สุดที่รู้จักกันในชื่อ โรค Acute Respiratory Distress (ARDS) ปอดจะเต็มไปด้วยของเหลวจำนวนมากจนไม่สามารถหายใจได้และผู้ป่วยก็เสียชีวิตในที่สุด
ดร. Shu-Yuan Xiao อาจารย์พยาธิวิทยาจากคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยชิคาโกได้ตรวจสอบรายงานพยาธิสภาพของผู้ป่วย Coronavirus ในประเทศจีน เขากล่าวว่าไวรัสดูเหมือนว่าจะเริ่มต้นในบริเวณรอบนอกของปอดทั้งสองข้างและค่อยโจมตีทางเดินหายใจส่วนบนหลอดลมและทางเดินหายใจกลางอื่น ๆ
คำถาม:ปอดเป็นอวัยวะเดียวที่ถูกไวรัสโจมตีรึเปล่า
คำตอบ:การติดเชื้อจะติดผ่านเยื่อเมือกในร่างกายเราตั้งเเต่จมูกไปถึงลำไส้
เมื่อไวรัสโจมตีเข้าไปในปอดเรา จะกระทบไปถึงระบบการย่อยอาหารของคนเรา ผู้เชี่ยวชาญถึงชี้ว่านี่คือสาเหตุว่าทำไมบางคนที่ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ถึงมีอาการท้องเสีย ไวรัสยังสามารถเข้าสู่ระบบการไหลเวียนโลหิตของเราได้ด้วย
Dr. George Diaz, section leader for infectious diseases at Providence Regional Medical Center in Everett, Wash ได้บอกว่าไวรัสสามารถเข้าไปในไขกระดูก ตับ หัวใจคนเราได้ด้วย เเต่ผู้เชี่ยวชาญยังไม่ยืนยันว่าไวรัสชนิดนี้จะสามารถโจมตีที่สมองเราได้หรือไม่
มีคำถามว่าผู้คนที่ฟื้นตัวจากการติดเชื้อเเล้วจะสามารถติดเชื้อได้อีกหรือไม่?
ยังไม่เป็นที่เข้าใจอย่างเเน่ชัด อยู่ในระหว่างสังเกตการณ์ผู้คนที่หายดีเเล้วจะมีระบบภูมิคุ้มกันสร้างขึ้นมาป้องกันหรือเปล่า
Reference: